โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบได้บ่อยและสามารถก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้ในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว การป้องกันด้วย วัคซีนไข้หวัดใหญ่ จึงเป็นสิ่งจำเป็นในทุกปี เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อและความรุนแรงของโรค ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูกที่เหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่ต้องการมีภูมิคุ้มกันโดยไม่ต้องฉีดยาทำให้การรับวัคซีนเป็นเรื่องง่ายและสบายใจยิ่งขึ้น
ทำความรู้จักวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก
วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก (Live Influenza Vaccine) เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์ โดยให้ผ่านการพ่นละอองเข้าสู่โพรงจมูกเพื่อเลียนแบบการติดเชื้อตามธรรมชาติ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากกว่าแบบฉีด โดยกระตุ้นได้มากถึง 3 ทาง ได้แก่ การกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่จมูก (Mucosal IgA) กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย (Systemic IgG) และกระตุ้นภูมิระดับเซลล์ (Cellular T-cell) สามารถลดการติดเชื้อได้ดี และระดับภูมิคุ้มกันสูงยาวนานกว่า 12 เดือน โดยวัคซีนพ่นจมูกที่มีใช้ในประเทศไทยขณะนี้คือวัคซีน (ฟลูมิสต์ FluMist) ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ครอบคลุมสายพันธุ์ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำในแต่ละปี เช่นเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบฉีด
วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก สามารถให้ได้ตั้งแต่อายุ 2 - 49 ปี
**กรณีอายุน้อยกว่า 9 ปี ที่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต ให้พ่น 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน
วิธีการให้วัคซีน
- พ่นเข้าจมูกทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 0.1 มล.
- พ่นปีละครั้งเช่นเดียวกันกับวัคซีนชนิดฉีด เนื่องจากเชื้อมีการกลายพันธุ์อยู่ทุกปี
วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก แตกต่างจากวัคซีนแบบฉีดอย่างไร
- ไม่ใช้เข็ม ลดความกังวล
- สะดวก รวดเร็ว เพียงพ่นเข้าสู่โพรงจมูก ใช้เวลาไม่นาน
- เสริมภูมิคุ้มกันตรงจุด กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่เยื่อบุทางเดินหายใจส่วนต้น ทำให้ภูมิขึ้นเร็วตั้งแต่สัปดาห์แรก
- ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ถึง 88%
- ลดการนอนโรงพยาบาลได้ 63%
วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูกแตกต่างจากวัคซีนแบบฉีดอย่างไร
วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูกมีผลข้างเคียงไหม
โดยทั่วไปวัคซีนที่พ่นจมูกถือว่ามีผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง มักหายได้เองภายในไม่กี่วัน โดยอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังจากรับวัคซีน มีดังนี้
- คัดจมูก มีน้ำมูก
- ไอ จาม หรือระคายเคืองในโพรงจมูก
- เจ็บคอหรือเสียงแหบ
- มีไข้ต่ำ ๆ ปวดศีรษะ อ่อนเพลียเล็กน้อย
หากมีอาการผิดปกติที่รุนแรง เช่น หายใจลำบากหรือมีอาการบวม ควรรีบพบแพทย์ทันที
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก ไม่แนะนำในกลุ่มใด
เนื่องจากเป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นเป็นวัคซีนชนิด "เชื้อเป็น" จึงมีข้อห้ามใช้ ที่ต่างจากวัคซีนแบบฉีด ดังนี้
- เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และผู้ใหญ่อายุมากกว่า 49 ปี
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด
- เด็กหรือวัยรุ่นที่กำลังใช้ยาแอสไพริน
- ผู้ที่เคยมีอาการแพ้รุนแรงต่อส่วนประกอบของวัคซีน หรือแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนที่เป็นไขไก่
**กรณีป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วได้รับยาต้านไวรัส เช่น Oseltamivir; Tamiflu ควรรอให้หายก่อน
ควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีหรือไม่?
ควรรับทุกปี เนื่องจากสายพันธุ์ไวรัสเปลี่ยนแปลงเสมอ และภูมิคุ้มกันจะลดลงตามเวลา การรับวัคซีนประจำปีช่วยลดโอกาสป่วยและลดการแพร่เชื้อในชุมชนได้มาก โดยในประเทศไทยมีการระบาดสูงในช่วงฤดูฝนและต้นปี แนะนำให้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในช่วง เมษายน – พฤษภาคม ก่อนการระบาดในช่วงฤดูฝน
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูกเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับเด็กที่กลัวเข็มหรือผู้ที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีน มีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่ได้ดี ใช้เวลาในการรับวัคซีนไม่นาน สะดวก รวดเร็วและควรอยู่ในแผนการดูแลสุขภาพของเด็กทุกวัยโดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดสูง
นัดหมายปรึกษาแพทย์ / รับบริการฉีดวัคซีนโทร. 0-2117-4999
#ศูนย์กุมารเวช 24 ชั่วโมง ชั้น 2 ต่อ 2200
#ศูนย์วัคซีน ชั้น 4 (สำหรับอายุ 15 ปีขึ้นไป) ต่อ 2435
