วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก สำหรับอายุ 2-49 ปี ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องเจ็บตัว

#วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก #วัคซีนพ่นจมูก #ฟลูมิสต์  #Live attenuated influenza #LAIV vaccine #FluMist

            โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบได้บ่อยและสามารถก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้ในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว การป้องกันด้วย วัคซีนไข้หวัดใหญ่ จึงเป็นสิ่งจำเป็นในทุกปี เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อและความรุนแรงของโรค ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูกที่เหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่ต้องการมีภูมิคุ้มกันโดยไม่ต้องฉีดยาทำให้การรับวัคซีนเป็นเรื่องง่ายและสบายใจยิ่งขึ้น


ทำความรู้จักวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก

            วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก (Live Influenza Vaccine) เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์ โดยให้ผ่านการพ่นละอองเข้าสู่โพรงจมูกเพื่อเลียนแบบการติดเชื้อตามธรรมชาติ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้มากกว่าแบบฉีด โดยกระตุ้นได้มากถึง 3 ทาง ได้แก่ การกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่จมูก (Mucosal IgA) กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย (Systemic IgG) และกระตุ้นภูมิระดับเซลล์ (Cellular T-cell) สามารถลดการติดเชื้อได้ดี และระดับภูมิคุ้มกันสูงยาวนานกว่า 12 เดือน โดยวัคซีนพ่นจมูกที่มีใช้ในประเทศไทยขณะนี้คือวัคซีน (ฟลูมิสต์ FluMist) ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ครอบคลุมสายพันธุ์ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำในแต่ละปี เช่นเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบฉีด

วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก สามารถให้ได้ตั้งแต่อายุ 2 - 49 ปี

**กรณีอายุน้อยกว่า 9 ปี ที่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต ให้พ่น 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน


วิธีการให้วัคซีน

  • พ่นเข้าจมูกทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 0.1 มล.
  • พ่นปีละครั้งเช่นเดียวกันกับวัคซีนชนิดฉีด เนื่องจากเชื้อมีการกลายพันธุ์อยู่ทุกปี

วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก แตกต่างจากวัคซีนแบบฉีดอย่างไร

  • ไม่ใช้เข็ม ลดความกังวล
  • สะดวก รวดเร็ว เพียงพ่นเข้าสู่โพรงจมูก ใช้เวลาไม่นาน
  • เสริมภูมิคุ้มกันตรงจุด กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่เยื่อบุทางเดินหายใจส่วนต้น ทำให้ภูมิขึ้นเร็วตั้งแต่สัปดาห์แรก
  • ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ถึง 88%
  • ลดการนอนโรงพยาบาลได้ 63%

วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูกแตกต่างจากวัคซีนแบบฉีดอย่างไร

#วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก #วัคซีนพ่นจมูก #ฟลูมิสต์  #Live attenuated influenza #LAIV vaccine #FluMist

วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูกมีผลข้างเคียงไหม

โดยทั่วไปวัคซีนที่พ่นจมูกถือว่ามีผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง มักหายได้เองภายในไม่กี่วัน โดยอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังจากรับวัคซีน มีดังนี้

  • คัดจมูก มีน้ำมูก
  • ไอ จาม หรือระคายเคืองในโพรงจมูก
  • เจ็บคอหรือเสียงแหบ
  • มีไข้ต่ำ ๆ ปวดศีรษะ อ่อนเพลียเล็กน้อย

หากมีอาการผิดปกติที่รุนแรง เช่น หายใจลำบากหรือมีอาการบวม ควรรีบพบแพทย์ทันที


วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก ไม่แนะนำในกลุ่มใด

เนื่องจากเป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นเป็นวัคซีนชนิด "เชื้อเป็น" จึงมีข้อห้ามใช้ ที่ต่างจากวัคซีนแบบฉีด ดังนี้

  • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และผู้ใหญ่อายุมากกว่า 49 ปี
  • หญิงตั้งครรภ์
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด
  • เด็กหรือวัยรุ่นที่กำลังใช้ยาแอสไพริน
  • ผู้ที่เคยมีอาการแพ้รุนแรงต่อส่วนประกอบของวัคซีน หรือแพ้ส่วนประกอบของวัคซีนที่เป็นไขไก่

**กรณีป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วได้รับยาต้านไวรัส เช่น Oseltamivir; Tamiflu ควรรอให้หายก่อน


ควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีหรือไม่?

            ควรรับทุกปี เนื่องจากสายพันธุ์ไวรัสเปลี่ยนแปลงเสมอ และภูมิคุ้มกันจะลดลงตามเวลา การรับวัคซีนประจำปีช่วยลดโอกาสป่วยและลดการแพร่เชื้อในชุมชนได้มาก โดยในประเทศไทยมีการระบาดสูงในช่วงฤดูฝนและต้นปี แนะนำให้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในช่วง เมษายน – พฤษภาคม ก่อนการระบาดในช่วงฤดูฝน


            วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูกเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับเด็กที่กลัวเข็มหรือผู้ที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีน มีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่ได้ดี ใช้เวลาในการรับวัคซีนไม่นาน สะดวก รวดเร็วและควรอยู่ในแผนการดูแลสุขภาพของเด็กทุกวัยโดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดสูง


นัดหมายปรึกษาแพทย์ / รับบริการฉีดวัคซีนโทร. 0-2117-4999

#ศูนย์กุมารเวช 24 ชั่วโมง ชั้น 2 ต่อ 2200

#ศูนย์วัคซีน ชั้น 4 (สำหรับอายุ 15 ปีขึ้นไป) ต่อ 2435