ไข้หวัดใหญ่ โรคทางเดินหายใจ..ที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน


       โรคไข้หวัดใหญ่  เป็นโรคที่ระบาดในทุกๆ ปี และตลอดปีจะระบาดมากในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมากขึ้น อาการของไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน หากเกิดการติดเชื้อโรคใดโรคหนึ่งแล้วยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อร่วมกันได้ ซึ่งจะทำให้มีอาการรุนแรง เกิดภาวะแทรกซ้อนและทำให้การรักษามีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น


อาการของโรคไข้หวัดใหญ่

       • ไข้สูงเฉียบพลัน มากกว่า 38 -40 0C

       • หนาวสั่น หรือเหนื่อยมากขึ้น

       • ไอจากหลอดลมอักเสบ เจ็บคอ มีน้ำมูก

       • ปวดศีรษะ

       • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

       • เด็กเล็กจะมีไข้สูง ร่วมกับอาการทางระบบอื่น เช่น ถ่ายเหลว คลื่นไส้อาเจียน และชักจากไข้สูง


โรคไข้หวัดใหญ่, influenza virus, Cold, ภาวะแทรกซ้อนโรคไข้หวัดใหญ่

อาการแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่มีอะไรบ้าง

       • เซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจถูกทำลาย

       • เกิดความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด กระตุ้นการอักเสบของหลอดเลือดทำให้เส้นเลือดปริแตกได้ง่าย

       • เกิดการอักเสบของหลอดลม

       • เกิดความผิดปกติของระบบเผาผลาญ

       • ร่างกายขาดน้ำ

       • ติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน หูชั้นกลางอักเสบ ปอดบวม

       • โรคหัวใจ หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หลอดเลือดอักเสบปริแตกง่าย

       • โรคปอด ทำให้โรคหอบหืดและถุงลมโป่งพองกำเริบและมีอาการรุนแรง

       • โรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง ระบบภูมิคุ้มกันทำงานน้อยลง เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

       • โรคไต ไตทำงานผิดปกติ


ไข้หวัดใหญ่รักษาอย่างไร ?

       ไข้หวัดใหญ่สามารถหายเองได้ หากมีอาการไม่รุนแรงสามารถดูแลเองที่บ้านและรักษาตามอาการ เช่น เมื่อมีไข้สูงให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว และใช้ยาลดไข้พาราเซตามอล หรือถ้ามีน้ำมูกให้ใช้ยาลดน้ำมูกและยาละลายเสมหะ ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารอ่อนและนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

       ผู้ที่มีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อน อาจต้องใช้ยาต้านไวรัส โอลเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) ในการรักษาโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหอบเหนื่อย สงสัยปอดอักเสบหรือมีอาการที่รุนแรง อาจมีความจำเป็นที่ต้องได้รับการรักษาโดยการนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพื่อได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด


โรคไข้หวัดใหญ่...ป้องกันได้อย่างไร

       • ไม่ควรคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด หรือถ้าจำเป็นควรปิดปาก จมูกด้วยหน้ากากอนามัย

       • ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด และอากาศถ่ายเทไม่ดีเป็นเวลานานโดยไม่จำเป็น

       • หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ

       • ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น

       • เลือกทานอาหารที่ร้อน ปรุงสุกใหม่ ควรทานอาหารแยกสำรับ หากทานร่วมกันให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว

       • ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง


ใครบ้างที่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

       กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง  ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคตับ โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด และโรคหลอดเลือดสมอง

       กลุ่มเสี่ยงที่สำคัญ  ได้แก่ เด็กเล็ก 6 เดือน – 5 ปี ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป ผู้พิการทางสมอง ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 kg. ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องและผู้ติดเชื้อ HIV

       บุคคลทั่วไป  ลดโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อไปสู่คนในครอบครัว ลดความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ ลดการขาดเรียน ขาดงาน ลดการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต


ใครบ้างที่ห้ามฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

       - เด็กเล็กที่ยังมีอายุยังไม่ถึง 6 เดือน

       - คนที่มีประวัติแพ้ไก่หรือไข่ไก่อย่างรุนแรง เพราะวัคซีนผลิตในไข่ไก่

       - ผู้ที่เพิ่งหายจากอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันไม่เกิน 7 วัน

       - ผู้ที่เพิ่งนอนพักรักษาตัวและออกจากโรงพยาบาลมาได้ไม่เกิน 14 วัน

       - ผู้ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนได้รับวัคซีน

       - ผู้ที่มีโรคประจำตัว มีอาการกำเริบ ยังควบคุมอาการของโรคประจำตัวไม่ได้ ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อน

          *** สำหรับผู้ที่มีไข้ต่ำๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน


       วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีความปลอดภัยสูง พบอาการข้างเคียงหลังฉีดน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเพียงอาการไข้ต่ำๆ อ่อนเพลียและปวดบวมบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน การประคบด้วยน้ำอุ่นและรับประทานยาแก้ปวดจะช่วยให้อาการทุเลาและหายได้รวดเร็วขึ้น


ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี

       เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มีหลายสายพันธุ์ ทุกปีองค์การอนามัยโลก(WHO) จะเป็นผู้ที่กำหนดสายพันธุ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่คาดการณ์ว่าจะมีการระบาด โดยควรฉีดในช่วงเวลาเดิมเป็นประจำทุกปีเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง


       โรคไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่แค่ไข้หวัดธรรมดา อาการป่วยไข้หวัดใหญ่อาจมีความรุนแรงมากกว่าที่เราคิดส่งผลให้เด็กๆขาดเรียน ผู้ใหญ่ขาดงาน และอาจต้องรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หากเป็นในคนกลุ่มเสี่ยงอาจมีอาการรุนแรงมากเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อน รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การดูแลรักษาอนามัยส่วนบุคคล เช่น การล้างมือ ใช้หน้ากากอนามัยเมื่อเจ็บป่วย ร่วมกับรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปีจะช่วยลดโอกาสเจ็บป่วยและความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่ได้


                                                              นัดหมายปรึกษาแพทย์ศูนย์อายุรกรรม โทร. 0-2117-4999 ต่อ 2120,2138